“มนต์รักเพลงอีสาน..บ้านขี้เหล็กใหญ่”
เผยแพร่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
“มนต์รักเพลงอีสาน..บ้านขี้เหล็กใหญ่”: บ้านขี้เหล็กใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
ท่ามกลางแสงแดดจ้า ข้าวในแปลงนาเขียวชะอุ่ม แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินลุ่มน้ำบ้านขี้เหล็กใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พอขึ้นจากไร่นา ดนตรีคือการละเล่นความบันเทิงในสายเลือดของคนหมู่บ้านนี้
เสียงแคน เสียงพิณ และเสียงกลอง สอดประสานกันในท่วงทำนองหมอลำอีสาน ผู้คนที่นี่..ชุมชนแห่งนี้..คือ หมู่บ้านที่มีดนตรีอีสานอยู่ในสายธารชีวิตสืบมาจากรุ่นสู่รุ่น และคุณอาจได้พบเห็นภาพเหล่านี้หากได้มาเยือน…
วันนี้ CEA ขอนแก่น ขอพาทุกคนไปรู้จัก “วิถีดนตรีอีสาน บ้านขี้เหล็กใหญ่” เข้าไปเรียนรู้วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนที่นี่คลอเสียงดนตรีพื้นบ้านอีสาน ถึงหมู่บ้านหมอแคนในตำนานแห่งเมืองพญาแล “บ้านขี้เหล็กใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ” ชุมชนละแวกศาลเจ้าพ่อพญาแล สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองชัยภูมิ
ไปฝึกตีกลองเส็ง กลองแข่งขันประกวดมาแต่โบราณ ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ปราชญ์ชาวบ้าน พ่อครูแคนแห่งวงแคนยาว หนึ่งเดียวในประเทศไทย และได้ลองเวิร์คช็อปทำอาหารอีสานและลิ้มลองรสชาติ “แกงขี้เหล็ก” และ “ข้าวลอย” วัตถุดิบอาหารพื้นถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนบ้านขี้เหล็กใหญ่ ให้ทุกคนได้ลองสัมผัสวิถีชีวิตหมอแคนสักครั้ง ให้ม่วนใจไม่รู้ลืม
HIGHLIGHT OF THE TRIP
จุดนัดพบของทริปนี้ เริ่มต้นที่ “วัดบริบูรณ์” วัดประจำหมู่บ้านของบ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
วัดแห่งนี้มีการอนุรักษ์กลองเพล อายุมากกว่า 200 ปี โดยที่ยังมีการใช้งานจริง และชาวบ้านยังบูรณะกลองโบราณนี้สืบเนื่องมาโดยไม่ขาด ซึ่งเป็นการสืบสานวิธีการทำกลองตามแบบโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
และที่ลานวัดบริบูรณ์ บ้านขี้เหล็กใหญ่นี้เอง คือ จุดรวมตัวของผู้สืบสานอนุรักษ์กลองโบราณ
มาทำความรู้จักกับ “กลองเส็ง” เครื่องดนตรีชิ้นใหญ่ เสียงกึกก้อง และฟังเรื่องเล่าจากปราชญ์กลองของชุมชน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสาธิต “แข่งขันตีกลองเส็ง”
ในอดีต การแข่งขันประชันความดังของกองเส็ง จะวัดจากแรงกระเพื่อมของเสียงที่พัดพาขันน้ำในการประชันของกลองสองฝั่ง ซึ่งในปัจจุบันการแข่งขันกลองเส็งจะเป็นที่รู้จักเฉพาะในหมู่บ้านที่ยังอนุรักษ์อยู่เท่านั้น และใช้เครื่องวัดเดซิเบลแบบดิจิตอลในการประชันแข่งขันแทนขันน้ำที่เราได้เห็นเป็นบุญตาจากทริปนี้
จากวัดประจำหมู่บ้าน มาสู่ร้านกาแฟเล็กๆกลางชุมชน
แต่รู้ใครเล่าจะรู้ว่าร้านกาแฟเล็กๆในหมู่บ้านแห่งนี้ คือบ้านของ “ครูลุน” ตำนานครูแคนแห่งบ้านขี้เหล็กใหญ่ ครูดนตรีสากลที่เอาหลักการเรื่องโน๊ตเพลงมาใช้สอนผู้คนเล่นเครื่องดนตรีอีสาน แม้ครูลุนจะจากไปแล้ว แต่สายเลือดนักดนตรียังถูกถ่ายทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานแทบไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่แวะดื่มกาแฟเย็นๆในร้านเล็กๆของหมู่บ้าน ก็ได้ฟังเพลงแคนอีสานจากหมอแคนระดับครู
ใกล้เที่ยงแล้วก็ถึงเวลาของมื้ออาหาร ชาวบ้านในชุมชนพาเก็บวัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง “ยอดผักขี้เหล็ก” ต้นไม้อันเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน “ขี้เหล็กใหญ่”
ร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปทำอาหารจากวัตถุดิบตามฤดูกาล
ช่วงนี้หน้าฝน อีสานมีหน่อไม้ให้กินเยอะมาก และเมนูเด็ดของฤดูกาลนี้ก็คือ “หมกหน่อไม้”
นอกจากได้ลิ้มลองแกงขี้เหล็กและหมกหน่อไม้ เมนูกับข้าวพื้นถิ่นของที่นี่แล้ว ผู้ร่วมทริปยังจะได้ชิมรสชาติและรู้จัก “ข้าวลอย” ข้าวพันธุ์พื้นถิ่นจากแปลงนาของคนบ้านขี้เหล็กใหญ่ ซึ่งมีคุณประโยชน์สูงและน้ำตาลน้อย เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มาของชื่อข้าวลอยนั้น มาจากลักษณะพิเศษระหว่างการเจริญเติบโตของข้าวชนิดนี้ เพราะพันธุ์ข้าวลอยสามารถยืดปล้องขึ้น และชูรวงข้าวลอยหนีน้ำ ที่มักท่วมขังสูงในทุ่งนาแถบนี้
.
นอกจากมื้ออาหารกลางวันแสนอร่อยแล้ว ยังได้ฟังเพลงเพราะๆ จากวงดนตรีของชาวบ้านขี้เหล็กใหญ่ที่รวมตัวกันเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนโดยเฉพาะ
อิ่มหนำจากมื้อเที่ยงแล้ว ก็ถึงคิวของ “แคนยาว” แคนที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวมากถึง 3.5 เมตร ซึ่งแคนยาวนี้มีเต้าเป่าที่แตกต่างกัน ทั้งแบบ 1 เต้า, 2 เต้า และมากสุดคือ 3 เต้า ซึ่งต้องใช้คนเป่าพร้อมกัน 3 คน
.
แคนยาวถูกคิดค้นขึ้นเป็นภูมิปัญญาของชุมชนบ้านขี้เหล็กใหญ่แห่งนี้โดยเฉพาะ
และมีการก่อตั้ง “วงแคนยาว” ขึ้น ทำให้วงแคนยาวกลายเป็นวงดนตรีอีสานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สร้างชื่อเสียงให้แก่หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ถึงเวลาฝากตัวเป็นศิษย์หมอแคน กับ “คุณตาสะอาด” ปราชญ์แคนแห่งวงแคนยาว บ้านขี้เหล็กใหญ่ ฟังและหัดเล่นเพลงแคน “ลายเจ้าพ่อ” ซึ่งเชื่อมโยงชุมชนแห่งนี้กับศาลเจ้าพ่อพญาแล สถานที่ศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดชัยภูมิ
เสียงเพลงแคนจากหมอแคนบ้านขี้เหล็กใหญ่ เป็นหนึ่งในเครื่องไหว้สักการะ“เจ้าพ่อพญาแล” ซึ่งมีมาเนิ่นนาน ตั้งแต่อดีตรุ่นปู่ย่าตาทวด สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ส่งท้ายทริปด้วยการไปสักการะ เจ้าพ่อพญาแล และลองแสดงเพลงแคนบูชาขอพรจากเจ้าพ่อ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สนใจเข้าไปสัมผัส “วิถีชุมชนดนตรีอีสาน บ้านขี้เหล็กใหญ่”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/farmhoodiy
หรือ โทร 086-602-6366 คุณเต้าหู้ ผู้ประสานงานชุมชน
.
กำหนดการ
08.00 – 9.30 น.
นัดพบที่วัดบริบูรณ์ สักการะหลวงปู่เผือกและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด ฟังเรื่องเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชน และเรียนรู้เรื่อง “กลองเส็ง”
9.30 – 11.00 น.
สำรวจชุมชนบ้านขี้เหล็กใหญ่ พบปราชญ์ดนตรีของชุมชน
และบุกบ้าน “ครูลุน” ครูดนตรีแห่งบ้านขี้เหล็กใหญ่ พร้อมพักเบรคที่ร้านกาแฟดนตรีของทายาทครูลุน
11.00 – 13.00 น.
เลาะชุมชนหาวัตถุดิบตามฤดูกาล แล้วร่วมเวิร์คช็อปทำอาหารอีสาน
และทานมื้อกลางวัน พร้อมฟังดนตรีจากวงดนตรีพื้นบ้านร่วมสมัย
13.00-15.00 น.
ไปรู้จักกับวงแคนยาว วงดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ชื่อดังของบ้านขี้เหล็กใหญ่
ชมแคนยาว ขนาด 3.5 เมตรที่เล่นได้จริงและยาวที่สุดในประเทศและฝากตัวเป็นลูกศิษย์หมอแคน “คุณตาสะอาด” ปราชญ์แคนที่จะมาสอนพื้นฐานการเป่าแคนให้แก่ทุกคน
15.00-16.00น.
เดินทางไปสักการะศาลเจ้าพ่อ และเสาหลักเมือง
จากนั้นตั้งวงเป่าแคน ถวายเจ้าพ่อ เพื่อเป็นสิริมงคล ตามความเชื่อ ความศรัทธาของชาวบ้านขี้เหล็กใหญ่และชาวชัยภูมิ
– ค่าใช้จ่าย 450 บาทต่อคน
– รับจำนวน 10 – 20 คน ต่อทริป
*จุดนัดหมาย ศาลาการเปรียญวัดบริบูรณ์ บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
พิกัด https://goo.gl/maps/WHGo93mp5D4qCcs8A